สวัสดีครับผู้อ่านทุกๆ ท่านบทความของเราในวันนี้จะมาไขข้อสงสัยว่า เดินหรือวิ่ง แบบไหนลดไขมันได้ดีกว่า! หลายท่านเองที่เข้ามาอ่านในบทความนี้แน่นอนครับ ว่ากำลังประสบปัญหาไขมันส่วนเกินหรือ Love Handles ซึ่งเป็นไขมันสะสมอยู่ข้างลำตัวรวมไปถึงช่วงหลังส่วนล่างที่มักจะถูกเรียกว่า”ห่วงยาง” ต้องบอกไว้ก่อนนะครับว่าไขไมส่วนนี้จะเป็นส่วนสุดท้ายที่ร่างกายได้นำไปใช้ เปรียบเทียบง่ายๆ กับเวลาเราชอบทานอะไรมักจะเก็บไว้กินเป็นส่วนสุดท้ายนั่นแหละครับ เจ้าห่วงยางเองก็เหมือนกันเป็นส่วนที่ร่างกายเองนำไปใช้ก็ต่อเมื่อไม่มีอะไรให้เผาผลาญแล้วนั่นเองครับ แต่ทั้งนี้คุณคงจะอยากหาวิธีลดง่ายๆ โดยส่วนใหญ่มักจะคิดว่าการวิ่งหรือเดินนั้นสามารถทำให้ไขมันส่วนนี้ลดลงไปได้ วันนี้เราจะมาให้คำตอบกับคุณผู้อ่านกันครับ
การเดินเพื่อลดไขมัน

การเดิน นับได้ว่าเป็นการออกกำลังที่ง่ายและยังสามารถเผาผลาญไขมันได้อีกด้วย การที่คุณออกมาเดินในทุกๆ เช้าหลังจิบกาแฟซักแก้วจะช่วยให้ระบบประสาทในการทำงานของคุณนั้น สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่แถมร่างกายคุณเอง ยังนำไขมันสะสมไปใช้อีกด้วย เพราะนอกจากนี้แล้วการเดินจะช่วยทำให้คุณคลายความกังวล ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ทำให้ความทนทานของปอดเพิ่มมากขึ้นอีกด้วยครับ เพราะหากคุณลองตื่นมาเดินตอนเช้าทุกวัน วันละ 30-45 นาที เป็นระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ คุณลองสังเกตุตัวเองดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหนทั้งด้านอารมณ์ สุขภาพ รวมไปถึงห่วงยางของคุณ จะสังเกตุเห็นได้ชัดเลยแหละครับ เพียงแค่คุณลองลุกมาเดินในทุกๆ เช้า ทั้งนี้เราก็ได้ทำตารางการเดินในแต่ละแบบมาให้คุณผู้อ่านได้ดูกันว่าการเดินรูปแบบไหนเผาผลาญแคลอรี่ไปเท่าไหร่ยังไง ลองไปดูตามตารางข้างล่างที่เรานำมาเสนอเลยครับ
รูปแบบการเดิน | ปริมาณแคลอรี่ที่เผาผลาญ |
เดินช้า | 140-150 แคลอรี่ |
เดินขึ้นบันได | 500-1,000 แคลอรี่ |
เดินลงบันได | 400-500 แคลอรี่ |
เดินขึ้นเนินเขา | 450-900 แคลอรี่ |
เดินลงเนินเขา | 250-300 แคลอรี่ |
เดินความเร็วปรกติ | 300-400 แคลอรี่ |
เดินเร็ว | 400-500 แคลอรี่ |
เห็นแล้วใช่ไหมล่ะครับว่าแค่คุณเดินก็ช่วยให้แคลอรี่ ถูกนำไปใช้มากแค่ไหนล้วนขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกเดินแบบไหนตามตารางที่เราได้นำมาฝากคุณ
การวิ่งเพื่อลดไขมัน

การวิ่ง นั้นล้วนได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เรามักจะเห็นผู้คนส่วนใหญ่ออกมาวิ่งกันตามสวนสาธารณะหรือตามสวนในหมู่บ้าน เพราะการวิ่งนั้นล้วนมีข้อดีคือจะช่วยรักษาระดับความดันเลือดให้เป็นปกติ ช่วยให้การทำงานของหัวใจและปอดดีขึ้น เพิ่มความสมบูรณ์ให้ร่างกาย เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคประจำตัวต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคความดันเลือด โรคเบาหวาน ช่วยลดระดับไขมันในเลือด แถมยังช่วยลดไขมันส่วนเกินได้ดีอีกด้วย การวิ่งเป็นประจำจะช่วยให้คุณนั้นมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น ระดับความเครียดลดลง ซึ่งเป็นการออกกำลังที่เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย เดิมทีการวิ่งเป็นวิธีการออกกำลังที่มีโอกาสบาดเจ็บได้ยาก แถมยังง่ายต่อผู้ที่กำลังจะลดน้ำหรือหรือไขมันส่วนเกิน การวิ่งก็ตอบโจทย์ให้กับผู้อ่านที่รักสุขภาพได้เช่นกัน แต่การวิ่งเป็นเวลานานๆ ไม่ส่งผลดีต่อรางกายอย่างแน่นอนหากคุณไม่ใช่นักกีฬาที่ซ้อมเพื่อแข่งวิ่ง ดังนั้นแล้ว สำหรับคนปกติที่กำลังจะเริ่มลดน้ำหนักจากการวิ่ง เราขอแนะนำให้วิ่ง วันละ 30-45 ก็เพียงพอต่อวันครับ เพื่อประหยัดเวลาแถมยังให้ร่างกายไม่ฝืนมากจนเกินไป แต่การวิ่งจะต่างจากการเดินก็ตรงที่ร่างการมีอัตรา Heart Rate ที่สูงขึ้นกว่าการเดินจึงทำให้มีการเผาผลาญไขมันพร้อมกับกล้ามเนื้อ เพราะในกล้ามเนื้อมีคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายจะนำไปเก็บไว้ในกล้ามเนื้อนั้นแหละครับเป็นเหตุผลที่การวิ่ง ทำให้กล้ามเนื้อลดลง พร้อมกับไขมันในเวลาเดียวกันนั่นเอง
เท่านี้เพื่อนๆ คงจะหายส่งสัยกันแล้วใช่ไหมล่ะครับว่า เดินหรือวิ่ง แบบไหนลดไขมันส่วนเกินได้ดีกว่า! จากทั้งหมดที่กล่าวมานั้นล้วนแต่มีข้อดีหลักๆ นั่นก็คือช่วยให้คุณมีสุขภาพจิต และร่างกายที่ดีขึ้น ทั้งนี้อย่าลืมทำควบคู่พร้อมกับ 4 กีฬา ที่สร้างหุ่นดีให้คุณได้ เพราะจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้คุณมีรูปร่างที่ดี ไม่มีปัญหาไขมันส่วนเกินมากวนใจอีกต่อไป อย่าลืมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะสุขภาพดีๆ ไม่มีขายต้องสร้างด้วยตัวคุณเอง!